วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

กองโจรเงามายา(Genei Ryodan)

กองโจรเงามายา(Genei Ryodan)

           

                                     เปิดฉากการปล้นการประมูล

กองโจรเงามายา(Genei Ryodan,Phantom Troupe)
กลุ่มอาชญากรที่ได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ มีสมาชิก13คนประกอบไปด้วยหัว(หัวหน้า)
และขาอีก12ข้าง โดยแต่ละคนจะมีรอยสักรูปแมงมุม12ขาพร้อมหมายเลขประจำตัว โดยในบางที
จะเรียกกันเองในหมู่คนใกล้ชิดว่า"แมงมุม" โดยทั่วไปจะปล้นและฆ่า แต่ในบางครั้งก็ทำเรื่องดีๆ 

กฏ- แขนขาต้องปฏิบัติตามคำสั่งของหัวอย่างเคร่งครัด แม้แต่กรณีคอขาดบาดตายก็ไม่เว้น
- ถ้าเกิดหัวตายไป หาคนขึ้นรับตำแหน่งแทน สิ่งสำคัญสุดไม่ใช่หัว แต่เป็นแมงมุม
- กรณีขัดแย้งกันภายในกลุ่มให้ตัดสินกันโดยการโยนหัวก้อย ห้ามสมาชิกสู้กันเอง
- หากคนนอกต้องการเข้ากลุ่มต้องโค่นสมาชิกเก่าเพื่อเข้าไปแทน แต่หากจำนวนสมาชิกขาด
  หัวหน้าจะทำการเลือกคนเข้ากลุ่มเอง


  ภาพสัญลักษณ์แมงมุม และเหรียญสำหรับโยนหัวก้อยแบบที่มีรูปกะโหลกตรงกลางสัญลักษณ์



สมาชิก(กดลิ๊งค์เพื่อดูข้อมูลของแต่ละคน)
หัวหน้า(Danchou)คุโรโร่ ลูซิเฟอร์
สมาชิก
โนบุนากะ(หมายเลข1), แฟรงคลิน , มาจิ , ฟิ๊งคซ์ , เฟย์ตัน
ชาร์แน็ค(หมายเลข6หรือ9) , ชิซึคุ(หมายเลข8), กอลโทปี้ , โบโนเลนอฟ , คัลโต้(หมายเลข4)
อดีตสมาชิก
อุโบกิ้น (หมายเลข11), ปาคูโนด้า (หมายเลข6หรือ9), ฮิโซกะ(หมายเลข4)




                      ภาพในขณะตั้งกลุ่มและหน้าตาสมาชิกในขณะนั้น


                    เหล่าสมาชิกกำลังฉลางความสำเร็จในการปล้น


นครดาวตก(Ryuseigai)กลุ่มโจรเงามายามีที่มาจากเมืองนี้ สถานที่ที่ว่ากันว่าสามารถทิ้งอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นขยะ สารพิษ รวมถึงมนุษย์
ผู้คนในเมืองนี้จึงถือว่าไม่มีตัวตนในเชิงสังคม ทำให้สมาชิกที่มาจากเมืองนี้กลายเป็นบุคลที่ไร้ประวัติ
ว่ากันว่ากลุ่มมาเฟียก็ใช้สถานที่นี้ลักลอบส่งของเถื่อน พอรู้ว่ากองโจรเงามายามีเส้นสายกับนครดาวตก
จึงรีบทำการยกเลิกค่าหัว


                                พวกแมงมุมในนครดาวตก



ตำแหน่งหน้าที่
สมาชิกในกลุ่มจะแบ่งหน้าที่ชััดเจนกันไปตามความสามาถ และจะลงมือกันตามที่หัวหน้ากำหนด
โดยหลักๆจะแบ่งออกเป็นกองหน้า สำหรับคนที่มีความสามารถในการรบ และกองหลัง สำหรับคน
ที่มีความสามารถสำคัญหาทดแทนได้ยาก โดยกองหน้ามีหน้าที่ปกป้องคุ้มกันกองหลัง

ในการปล้นการประมูลในยอร์คชิน คุโรโร่แบ่งหน้าที่ให้กับคนในกลุ่มดังนี้
คุโรโร่ สั่งการ
อุโบกิ้น สู้รบ
โนบุนากะ สู้รบ
แฟรงคลิน สู้รบ
ฟิ๊งคซ์ สู้รบ
เฟย์ตัน สู้รบ ,หาข้อมูล(ทรมาน)
ปาคูโนด้า หาข้อมูล(ตั้งคำถาม)
ชาร์แน็ค หาข้อมูล(ค้นหา),วิเคราะห์
มาจิ แกะรอย,รักษา
ชิซึคุ กวาดทรัพย์สิน,ทำลายหลักฐาน
กอลโทปี้ สร้างของมีค่าเก๊
โบโนเรนอฟ เฝ้ารัง
ฮิโซกะ เฝ้ารัง



ภาพอุโบและชาร์ปลอมตัวเป็นผู้ประมูล
และเฟย์,แฟรงคลิน,ฟิ๊งซ์,ฮิโซกะ,ปาคู
ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่(จนท.อีกคนโดน
ชาร์ควบคุมอยู่)

ทางซ้ายเป็นภาพคุโรโร่ปลอมตัว
เพื่อเข้าไปขโมยความสามารถ




 











 ลำดับเหตุการณ์ภายในกลุ่ม- 5ปีก่อน กวาดล้างเผ่าคูลท์ ปล้นเนตรสีเพลิง
- 3ปีีก่อน ครอบครัวโซลดิ๊กเข้าสังหารสมาชิกในกลุ่ม คุโรโร่ได้สู้กับซิลเวอร์ จากข้อมูลที่ว่าครอบครัวโซลดิ๊กไม่เคยทำงานพลาด
กับข้อมูลที่ว่าชิซึคุกับฮิโซกะเข้ากลุ่มมาใหม่ในช่วง1-4ปี แต่ฮิโซกะเข้ามาโดยการสู้กับหมายเลข4เอง ทำให้พอเดาได้ว่า
สมาชิกที่โดนสังหารคือหมายเลข8คนเก่า และคนที่เข้ามาแทนคือชิซึคุ
- 1-4ปีก่อน ชิซึคุเข้ากลุ่มแทนหมายเลข8
- 2-3ปีก่อน ฮิโซกะเข้ากลุ่มแทนหมายเลข4
- กันยายนปี99 เข้าปล้นการประมูลที่เมืองยอร์คชิน
- กันยายนปี99 อุโบกิ้นและปาคูโนด้าตาย ฮิโซกะออกจากกลุ่ม ส่วนคุโรโร่โดนผนึกเน็น
- ตุลาคมปี99-ต้นปี00 รับคัลโต้เข้ากลุ่มแทนฮิโซกะ ตามหาผู้ขจัดเน็นให้คุโรโร่
- ช่วงสิงหาคมปี00 บางส่วนของสมาชิกปะทะกับซาซันที่นครดาวตก


         ภาพในวัยเด็ก คุโรโร่ ฟิ๊งซ์ แฟรงคลินและชาร์กำลังเล่นกันอยู่(ผู้หญิงแก่ๆอีกคนไม่ทราบว่าใคร)

ลำดับการงัดข้อ
1.อุโบกิ้น
2.ฟิ๊งคซ์
3.ฮิโซกะ
4.แฟงคลิน
5.เฟย์ตัน
6.มาจิ
7.คุโรโร่
8.โบโนเรนอฟ
9.โนบุนากะ
10.ชาร์แน็ค
11.ปาคููโนด้า
12.ชิซึคุ
13.กอลโทปี้

                  ทิ้งท้ายกันด้วยภาพเปิดตอนขณะที่สมาชิกกำลังใส่ชุดดำไว้อาลัยแด่อุโบกิน

4มหาวิถี

4มหาวิถีและเทคนิคการใช้ออร่าชั้นสูง


4มหาวิถี

เป็นพื้นฐานของเน็น4อย่างที่จะขาดไม่ได้เลยในการฝึกเน็น มีความสำคัญมากไปหาน้อยตามลำดับ





 


เท็น (คลุม)
เป็นพื้นฐานของพื้นฐานทั้งหมด เท็นเป็นการใช้สมาธิเพื่อทำให้ออร่าอยู่ในรูปทรงที่ต้องการ ซึ่งแฝงอยู่กับเกือบทุกกิจกรรมการใช้เน็น
โดยในพื้นฐานแรกสุดก็คือการใช้เท็นทำให้ออร่าไม่รั่วไหลสู่ภายนอกให้ได้ซะก่อน






เซ็ตสึ (ปิดกั้น)
เป็นพื้นฐานที่ใช้ในการกักเก็บออร่าเข้าสู่ร่างกาย(ยามปกติรึใช้เท็นออร่าจะล้อมรอบร่างกาย) ส่งผลให้มีสมาธิและสงบมากขึ้น รวมถึงฟื้นฟูร่างกายได้ไวขึ้น
สามารถประยุกต์ใช้ในการพรางตัวได้ จะทำให้คนอื่นรับรู้ตัวตน(พลังชีวิต) ของเราได้น้อยลงแม้จะยืนอยู่ต่อหน้าก็ตาม  แต่การใช้เซ็ตสึในการต่อสู้ต้องถือเป็นเรื่องควรระวัง เพราะจะทำให้สภาวะรุกรับกลายเป็นศูนย์ไปในตัว






เร็น (เค้น)
เป็นพื้นฐานเบื้องต้นสำหรับการต่อสู้  เร็นเป็นการบังคับให้ร่างกายปลดปล่อยออร่ามากกว่าปกติ เพื่อเตรียมใช้ต่อด้วยเทคนิคอื่นๆ แต่การปล่อยออร่าออกมาอย่างรวดเร็วนั้นจะทำให้สิ้นเปลืองพลังงานและหมดไปอย่างรวดเร็ว
ผู้ใช้เน็นฝีมือดีส่วนมากจะฝึกเร็นให้เปล่งออร่าออกมาได้คราวละมากๆเพื่อที่จะใช้ไม้ตายได้รุนแรง และก็ฝึกให้เปล่งออกมาได้นานๆเพื่อที่จะยืดระยะเวลาต่อสู้และปริมาณออร่าให้มากขึ้นด้วย




ฮัตสึ (แสดง)
เป็นพื้นฐานการใช้ออร่าตามสายซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลออกมา เพราะรูปแบบที่ต่างกันไปในแต่ละคนจึงเรียกว่าเป็นการออกความสามารถเฉพาะตัวรึไม้ตายเลยก็ได้
เกี่ยวกับเทคนิคนี้ค่อนข้างซับซ้อน ผมขอแยกอธิบายเอาไว้"ตรงนี้"ล่ะกันครับ

 

 

 

 

 

เทคนิคการใช้ออร่าชั้นสูง
 

 

เทคนิคขั้นสูงเป็นเทคนิคที่จะละเลยไม่ได้หากต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นเทคนิคที่ยากเย็นแต่ก็ต้องฝึกฝนให้คล่อง  แต่ถึงจะยากเพียงใดยอดฝีมือในเรื่องกลับใช้เทคนิคเหล่านี้ได้ง่ายราวกับกระพริบตา

 



เงียว (ผนึก)
รวมออร่าเอาไว้ที่จุดๆเดียว ส่งผลให้ออร่าที่อื่นเบาบางลง แต่จุดที่รวมจะแข็งแกร่งขึ้น ผู้ใช้ที่เชี่ยวชาญสามารถกำหนดปริมาณมากน้อยได้ตามความต้องการที่จะใช้ได้พอดี 
ส่วนมากจะใช้กับตาเพื่อที่จะทำให้มองออร่าของอีกฝ่ายที่ถูกพรางไว้ด้วย"อิน"ออก




อิน (พราง)
เทคนิคขั้นสูงของเซ็ตสึ คือการปกปิดร่องรอยของออร่าที่ตนเองใช้อยู่ ทำให้คนอื่นมองออร่าไม่ออก แต่ก็สามารถแก้ทางได้ด้วยการรวม"เงียว"ไว้ที่ตา

 



เอ็น (รัศมี)
เทคนิคขั้นสูงของเท็นและเร็น คือการกระจายรัศมีของออร่าที่ปกคลุมตัวให้กว้างกว่าปกติ และใช้ออร่าสัมผัสวัตถุและการเคลื่อนไหวภายในนั้นแทนประสาทสัมผัสปกติของตน
ส่วนมากจะใช้ในการตรวจจับรึค้นหาพื้นที่กว้างๆ เอ็นจะเป็นการกระจายรัศมีออกไปมากกว่า2เมตร ถ้าต่ำกว่านี้จะเป็นการตรวจจับปกติแทน ไม่ใช่เอ็น)
สำหรับผู้เชี่ยวชาญ สามารถใช้เอ็นแยกคนปกติกับผู้ใช้เน็นออกได้ด้วยการตอบสนองของออร่าของอีกฝ่ายเมื่อถูกเอ็นกระทบ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนและไหวพริบสูง



 



ชู (หุ้ม)
เทคนิคขั้นสูงของเท็น เป็นการแบ่งออร่าออกไปปกคลุมให้วัตถุที่ตนถืออยู่ ส่งผลให้เพิ่มพลังและความแข็งแกร่งให้วัตถุนั้นๆด้วย

 



เค็น (แข็ง)
เทคนิคการใช้เร็นและเท็นพร้อมกัน ใช้เร็นเปล่งออร่อออกมาให้มากกว่าปกติและใช้เท็นคงสภาพนั้นไว้ เป็นเทคนิคที่ใช้ก่อนการต่อสู้ที่ต้องพร้อมใช้ออร่ามากๆ แต่ก็เป็นการเผาผลาญออร่าให้หมดไวกว่าปกติด้วย



 



โค (แกร่ง)
เทคนิคที่รวมเร็น เท็น เซ็ตสึ เงียว เข้าด้วยกัน  เปล่งออร่าออกมาให้มากด้วยเร็น นำมารวมไว้ที่จุดใดจุดนึงด้วยเงียว ปิดออร่าจุดอื่นๆให้หมดสิ้นด้วยเซ็ตสึ(ส่งผลให้ออร่าที่รวมกันมากขึ้น) และคงสภาพนั้นไว้ด้วยเท็น
เป็นเทคนิคที่ฝึกยากที่สุด สิ้นเปลืองสมาธิและออร่าสูง แต่ก็แลกมากับพลังที่เพิ่มขึ้นหลายเท่า จนหลายๆคนมักใช้โคเป็นกระบวนท่าขั้นต้นสำหรับไม้ตายกัน

 



ริว (เวียน)
เป็นเทคนิคการใช้เงียว โค เค็น ให้คล่อง  ทำให้เคลื่อนย้ายออร่าไปมาในร่างกายได้อย่างคล่องแคล่วและคุ้มค่ากับปริมาณที่ต้องการใช้ให้มากที่สุด 
โดยเรียกเป็นอัตราส่วนการรุกรับ เช่นรุกรับ60/40 ก็หมายถึงใช้เงียวรวมออร่าไปไว้ในส่วนที่ต้องการใช้60%และส่วนอื่นๆเหลือไว้40%

หมาป่าเคราขาว


หมาป่าเคราขาว (ชื่อวิทยาศาสตร์Chrysocyon brachyurusอังกฤษManed wolf) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง ในวงศ์สุนัข (Canidae) เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่อยู่ในสกุลChrysocyon พบในทวีปอเมริกาใต้ ในประเทศบราซิลประเทศปารากวัย และประเทศโบลิเวียหมาป่าเคราขาวมีลักษณะโดยผิวเผินคล้ายคลึงกับหมาจิ้งจอก แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก โดยสูงถึงสามฟุตนับจากเท้าถึงหัวไหล่ เพราะมีช่วงขาที่ยาวทำให้การมองเห็นได้ดีเมื่อต้องอยู่ในทุ่งหญ้าหรือที่รกชัฏ มีน้ำหนักประมาณ 20 ถึง 25 กิโลกรัม ขนลำตัวเป็นสีแดงน้ำตาล โดยมีขนขาและหลังคอเป็นสีดำ ขนปลายหางและใต้ลำคอเป็นสีขาว ขนดำที่หลังคอเป็นขนยาวและตั้งชันได้เวลากลัวหรือต้องการแสดงความก้าวร้าว
หมาป่าเคราขาวมักอาศัยเป็นลำพัง หรือเป็นคู่ ซึ่งต่างจากสัตว์ในวงศ์หมาป่าขนาดใหญ่ชนิดอื่นๆที่มักอยู่เป็นฝูง หมาป่าเคราขาวล่าสัตว์ขนาดเล็กและขนาดกลางเป็นอาหารในเวลากลางคืน เช่น สัตว์ฟันแทะกระต่าย และ นก นอกเหนือจากนี้ หมาป่าเคราขาวกินผลไม้และพืชอีกหลายชนิดไม่แพ้เนื้อสัตว์ หากไม่ได้กินพืช หมาป่าเคราขาวจะเป็นโรคนิ่วได้
หมาป่าเคราขาวที่อาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าเซอราโด ของบราซิล มีพฤติกรรมชอบกินผลของโลบิรา (Solanum lycocarpum) มาก และเมื่อกินแล้วจะถ่ายมูลลงบนยอดจอมปลวกเล็ก ๆ ที่ขึ้นในทุ่งหญ้าเซอราโด ซึ่งในมูลนั้นจะมีเมล็ดของโลบิราอยู่ด้วย ซึ่งจะงอกเป็นต้นโลบิราขึ้นมาบนจอมปลวกนั้น เป็นเหตุให้ต้นโลบิราในทุ่งหญ้าเซอราโด มักขึ้นอยู่บนยอดจอมปลวกขนาดเล็ก
ในปัจจุบัน หมาป่าเคราขาวมีจำนวนลดลง เนื่องจากถูกล่าจากมนุษย์ และติดเชื้อโรคจากสุนัขบ้าน หมาป่าเคราขาวเป็นสัตว์ในบัญชีหมายเลข ๒ ของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าใกล้สูญพันธุ์ (CITES) โดยห้ามส่งออกหรือนำเข้าโดยปราศจากใบอนุญาต ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม[3]

เกมกรีดไอซ์เเลนด์ (GREED ISLAND)

เกมกรีดไอส์แลนด์
เกมกรีดไอส์แลนด์ (GREED ISLAND) เป็นเกมที่จินและเพื่อนร่วมกันสร้าง โดยชื่อเกมมาจากชื่อคนสร้างทั้ง 11 คน เกมเป็นการดำเนินเรื่องตามการใช้งานบทเกม RPG และการรวมคนเพื่อเข้าสู่ อีเว้นต่างๆ โดยเกมถูกสร้างอยู่บนโลกจริง โดยมีทางเข้าออกทางเดียวคือ ใช้เครื่องเกม GREED ISLAND เข้าออกเท่านั้น หากบุกรุกสถานที่จริงโดยไม่ได้ผ่าน GREED ISLAND จะถูกกำจัดออกจากเกม

เกมกรีดไอส์แลนด์

ภายใน GREED ISLAND ถูกสร้างจากเอ็นและเน็น ทั้งสิ่งมีชิวิต ของใช้ ผู้คนบ้างส่วน และมีการตั้งอีเว้นท์อยู่ในระบบของมันเอง ผู้เล่นจะได้รับสมุดเก็บสะสมการ์ด โดยการเปลี่ยนสิ่งของภายในเกมหรือสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นการ์ด สามารถใช้การ์ดคาถาได้ ผู้เล่นสามารถใช้เน็นต่อสู้กับสัตว์ประหลาดและผู้เล่นด้วยกันได้ ซึ่งทำให้ผู้เล่นบาดเจ็บและตายได้จริงๆ เกมจะเคลียร์ได้ต่อเมื่อมีผู้เล่นสามารถสะสมการ์ดพ็อคเก็ตจำกัดได้ครบ 100 ใบ และได้ขอของอะไรก็ได้ในเกมออกไปสู่โลกภายนอก 3 ชิ้น
คิรัวร์ กอร์นได้พบกับบิสเก็ต สาว(?)วัย57ปี ยอดฝีมือการใช้เน็นที่เป็นอาจารย์ของวิงก์อีกทีเพราะทนดูทั้งคู่สู้และหนีแบบไม่ได้เรื่องได้ราวไม่ไหว เนื่องจากความเก่งกาจของบิสเก็ตและการฝึกที่ทรหดโหดเข้าขั้น ทำให้ไม่นานกอร์นและคิรัวร์พัฒนาฝีมือได้อย่างก้าวกระโดด เพียงสามเดือนก็ปรับพื้นฐาน คิดท่าไม้ตายและฝึกสู้เสมือนจริงได้จนครบและแน่นพอจะลุยสู่กรีดไอร์แลนด์ของจริงได้ ทั้งสามได้เผชิญกับการล่าการ์ดระหว่างสองกลุ่มหลักคือกลุ่มของเทสเกลเลอร์และกลุ่มบอมเบอร์ พวกเขาเลือกเข้าฝ่ายเทสเกลเลอร์และร่วมมือกันชิงการ์ด"พื้นที่ชายทะเล" หนึ่งในการ์ดหายากที่กลุ่มบอมเบอร์ต้องการมาครอบครองได้สำเร็จด้วยการช่วยเหลือจากฮิโซกะ
จากนั้นกลุ่มเทสเกลเลอร์จึงตกลงถ่วงเวลาให้พวกกอร์นฝึกและพักรักษาตัวสามอาทิตย์เพื่อเตรียมตัวรับมือกับกลุ่มบอมเบอร์ที่จะเข้ามาชิงการ์ดอย่างหนัก เพราะกอร์นใช้ออร่าไปจนหมด และมือคิรัวร์พังยับเยิน ทั้งสามรู้ว่าเวลาแค่นี้ไม่อาจทำให้แผลหายได้ ดังนั้นกอร์นและบิสเก็ตจึงฝึกฝน และให้คิรัวร์พักผ่อนพร้อมคิดกลยุทธ์ไปด้วย จากนั้นเมื่อเวลาครบ กลุ่มเทสเกลเลอร์ถูกเล่นงานและถอนตัวจากเกม เหลือสมาชิกไว้คนหนึ่งคอยสนับสนุนพวกกอร์น
ด้วยกลยุทธ์ที่คิรัวร์คิด ทำให้ทั้งสามเอาชนะกลุ่มบอมเบอร์ลงได้อย่างราบคาบ และเพราะพวกเขาตกลงใช้การ์ด"ลมหายใจมหาเทพ"ช่วยรักษาทั้งที่เป็นศัตรูกัน กลุ่มบอมเบอร์จึงยอมพวกกอร์นทุกประการ ด้วยเหตุนี้ พวกกอร์นจึงสะสมการ์ดครบ99ใบ ตอบคำถามชิงการ์ดใบสุดท้ายได้อีก1ใบจึงครบถ้วนทั้ง100ใบ จึงเคลียร์เกมได้ และกอร์นได้เข้าไปพบ2ผู้สร้างเกม ลิสท์และดอว์น ดอว์นเล่าเรื่องจินให้กอร์นฟัง และมอบกล่องสมบัติใส่การ์ดที่ใช้ในโลกภายนอกให้ หลังจากผ่านงานเฉลิมฉลองการเคลียร์เกม กอร์นเลือกการ์ดมาสามใบ และออกจากเกมไปพร้อมกับคิรัวร์และบิสเก็ต
โดยของชิ้นแรก บิสเกตเลือกอัญมณีบลูมาเบิลออกไป และของอีกสองชิ้น กอร์นได้เลือกเวทมนตร์ในเกมที่จะสามารถตามตัวจินได้ เมื่อได้ใช้เวทมนตร์เพื่อตามหาจิน กลับกลายเป็นว่า กอร์นและคิรัวร์ได้บินไปหาไคท์แทน ซึ่งเป็นแผนของจินที่ตั้งไว้สมัยตอนสร้างเกม ว่าถ้ากอร์นใช้"แม็คเนติกฟอร์ซ"แสดงว่าเตรียมใจมาพอที่จะมาเจอพ่อด้วยตัวคนเดียว เขาจะให้พบ แต่ถ้ามาด้วย"แอ็คคอมปานี"ซึ่งเป็นการ์ดที่จะพาพวกพ้องตัวเองไปด้วย จินถือว่าไม่ผ่าน และตั้งโปรแกรมให้ไปพบไคท์แทน

สมาคม hunter x hunter


ฮันเตอร์ในการ์ตูนเรื่องนี้หมายถึงกลุ่มคนที่สอบผ่านการคัดเลือกทางด้านร่างกายและจิตใจ โดยการสอบในแต่ละปีจะเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆขึ้นอยู่กับทางกรรมการผู้คุมสอบ เมื่อสอบผ่านแล้วจะมีการมอบการ์ดฮันเตอร์ เพื่อแสดงตัวว่าเป็นฮันเตอร์ที่แท้จริง สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ใช้เป็นบัตรผ่านสำหรับเข้าประเทศหรือสถานที่ ที่ห้ามคนทั่วไปเข้า หรือแม้แต่ ใช้เป็นหลักประกันในการกู้เงินเป็นจำนวนมากๆได้ และมีการจัดระดับตามความสามรถในการสร้างชื่อเสียงและช่วยเหลือสังคมได้
ฮันเตอร์แต่ละคนจะมีลักษณะนิสัย และหน้าที่การงานต่างกัน โดยมีตั้งแต่ ฮันเตอร์นักอนุรักษ์ จนถึง ฮันเตอร์นักฆ่า โดยจัดความสามาถเป็นระดับดาว 1-4 และมีขั้นพิเศษเป็นผู้บริหารองค์กรฮันเตอร์
กฎ 10 ข้อสำหรับฮันเตอร์
1. ฮันเตอร์ต้องล่า หรือ ค้นหาบางสิ่งบางอย่าง
2. ฮันเตอร์ต้องใช้เน็นเป็น
3. ไม่ว่ากรณีใดๆ คนที่เป็นฮันเตอร์แล้วจะไม่ถูกเพิกถอนคุณสมบัติการเป็นฮันเตอร์ แต่ว่าบัตรฮันเตอร์จะไม่มีการออกให้ใหม่เป็นครั้งที่2
4. ฮันเตอร์ห้ามตามล่าฮันเตอร์ด้วยกันเอง ยกเว้นแต่ฮันเตอร์นั้นจะทำกระทำผิดขั้นรุนแรง
5. ฮันเตอร์ที่ค้นพบหรือมีผลงานเป็นที่ยอมรับจะถูกแต่งตั้งเป็นซิงเกิลฮันเตอร์
6. ฮันเตอร์ดาวเดียวจะถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง และถ้ามีลูกศิษย์ที่ได้รับดาวก็จะถูกแต่งตั้งเป็นดับเบิ้ลฮันเตอร์
7. ฮันเตอร์สองดาวที่มีผลงานยอดเยี่ยมหลายๆครั้งจะถูกแต่งตั้งเป็นทริปเปิ้ลฮันเตอร์
8. หากเหล่าฮันเตอร์ไม่ได้รับการสนับสนุนขั้นต่ำจากสมาคม สามารถรวบรวมรายชื่อเพื่อเพิกถอนประธานได้หากได้รับการสนับสนุนจากเสียงข้างมาก
เมื่อตำแหน่งประธานว่างลง การเลือกตั้งประธานจะเกิดขึ้นทันทีโดยมีรองประธานรักษาการชั่วคราวแทนจนกว่าจะได้ตัวประธานคนใหม่
9. ประธานเป็นคำกำหนดวิธีการสอบคัดเลือกฮันเตอร์ และเพื่อยืนยันว่าเป็นวิธีที่เหมาะสม จะต้องได้รับการสนับสนุนจากเสียงข้างมาก
10. เรื่องอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ในนี้จะถูกกำหนดโดยประธาน รองประธาน และเหล่าที่ปรึกษา โดยประธานจะเป็นผู้แต่งตั้งรองประธานและที่ปรึกษาเอง